คริปโตขึ้นแบบนี้มาทำความรู้จักกับ Scam และกลโกงในวงการคริปโตกันดีกว่า

โลกของคริปโตเคอร์เรนซีหรือสกุลเงินดิจิทัล ได้กลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางการลงทุนที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว นักลงทุนทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ต่างหันมาสนใจเพราะเห็นถึงโอกาสทำกำไรที่มากกว่าตลาดการเงินแบบดั้งเดิม แต่ขณะเดียวกันความนิยมที่พุ่งสูงก็กลายเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเข้ามาหาผลประโยชน์ด้วยเช่นกัน สิ่งที่หลายคนต้องเผชิญและควรทำความเข้าใจให้ดีคือ “Scam” หรือกลโกงในโลกคริปโต ซึ่งบางครั้งอาจมาในรูปแบบที่แนบเนียนจนผู้ลงทุนที่มีประสบการณ์ยังเผลอตกหลุมพราง

Scam ในวงการคริปโตคืออะไร

คำว่า Scam หมายถึงการหลอกลวงหรือต้มตุ๋นเพื่อให้เหยื่อสูญเสียทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นเงินสกุลปกติหรือคริปโตเคอร์เรนซี สำหรับวงการคริปโต Scam มีหลายรูปแบบและมีการปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง เพราะตลาดนี้ยังค่อนข้างใหม่และกฎระเบียบยังไม่เข้มงวดเท่าตลาดการเงินแบบดั้งเดิม มิจฉาชีพจึงอาศัยจุดอ่อนนี้สร้างกับดักล่อให้นักลงทุนสูญเสียเงิน

กลโกงที่พบบ่อยในโลกคริปโต

  1. โครงการปลอม (Fake Project / Rug Pull)
    เป็นรูปแบบที่ทีมพัฒนาประกาศสร้างเหรียญหรือโปรเจกต์ใหม่ โดยโปรโมตด้วยคำสวยหรู อ้างว่าจะเป็นนวัตกรรมแห่งอนาคต จากนั้นดึงดูดให้นักลงทุนจำนวนมากเข้ามาซื้อ เมื่อมูลค่าเหรียญพุ่งขึ้น ทีมงานก็ถอนเงินออกไปทั้งหมด ทิ้งให้นักลงทุนถือเหรียญไร้ค่า
  2. แชร์ลูกโซ่และ Ponzi Scheme
    มิจฉาชีพจะสร้างแพลตฟอร์มที่อ้างว่าให้ผลตอบแทนสูงเกินจริง เช่น การฝากคริปโตแล้วรับดอกเบี้ย 10% ต่อเดือน ซึ่งในความเป็นจริง รายได้ที่ผู้ลงทุนเก่าได้รับมาจากเงินของนักลงทุนใหม่ เมื่อไม่มีคนใหม่เข้ามา ระบบก็จะล้มและผู้ลงทุนจำนวนมากสูญเสียเงิน
  3. ฟิชชิ่ง (Phishing)
    มักมาในรูปแบบเว็บไซต์หรืออีเมลปลอมที่เลียนแบบหน้าตาของกระดานเทรดหรือกระเป๋าเงินดิจิทัลที่มีชื่อเสียง เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่านหรือ Seed Phrase เมื่อมิจฉาชีพได้ข้อมูลไปแล้วก็สามารถขโมยเหรียญทั้งหมดได้ทันที
  4. Pump and Dump
    กลุ่มคนบางกลุ่มร่วมมือกันปั่นราคาของเหรียญเล็ก ๆ โดยการซื้อในปริมาณมากเพื่อทำให้ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อมีนักลงทุนรายย่อยเข้ามาตามกระแส พวกเขาก็เทขายทันที ส่งผลให้ราคาตกลงอย่างรุนแรงและผู้ที่ซื้อตามต้องขาดทุน
  5. ปลอมตัวเป็นบุคคลหรือองค์กรดัง
    อีกกลโกงที่พบได้บ่อยคือการสร้างบัญชีปลอมบนโซเชียลมีเดียที่แอบอ้างเป็นนักลงทุนชื่อดังหรือบริษัทคริปโต แล้วประกาศทำกิจกรรมแจกเหรียญฟรี โดยมีเงื่อนไขว่าต้องโอนเหรียญบางส่วนไปก่อนเพื่อยืนยัน สุดท้ายเหรียญที่โอนออกไปก็หายไปกับมิจฉาชีพ

ทำไมผู้คนถึงตกเป็นเหยื่อ

หลายครั้งผู้ลงทุนตกหลุมพรางไม่ใช่เพราะขาดความรู้เท่านั้น แต่เพราะความโลภและความเร่งรีบ อยากได้ผลตอบแทนสูงโดยไม่ตรวจสอบรายละเอียดให้รอบคอบ อีกทั้งโลกคริปโตเต็มไปด้วยศัพท์เทคนิคและข้อมูลใหม่ ๆ ที่ซับซ้อน ทำให้ผู้ที่เพิ่งเข้ามาอาจสับสนและพึ่งพาคำบอกเล่ามากกว่าการวิเคราะห์ด้วยตนเอง นอกจากนี้ การที่มิจฉาชีพใช้ช่องทางออนไลน์ที่ดูน่าเชื่อถือ เช่น เว็บไซต์ที่ออกแบบเหมือนจริง หรือการโฆษณาผ่านอินฟลูเอนเซอร์ ก็ยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับ Scam เหล่านี้

วิธีป้องกันตัวจาก Scam

  1. ศึกษาให้ลึกซึ้งก่อนลงทุน
    อย่าเชื่อเพียงแค่คำพูดหรือการโปรโมตบนโซเชียล ควรตรวจสอบทีมพัฒนา เบื้องหลังโครงการ และแผนการดำเนินงานอย่างละเอียด
  2. หลีกเลี่ยงผลตอบแทนที่เกินจริง
    หากใครรับประกันผลกำไรที่สูงเกินกว่าตลาดทั่วไป ให้สงสัยไว้ก่อนว่านั่นอาจเป็น Scam
  3. ใช้กระเป๋าเงินที่ปลอดภัย
    เก็บ Seed Phrase และ Private Key ไว้อย่างเป็นความลับ หลีกเลี่ยงการกรอกข้อมูลในเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
  4. ตรวจสอบ URL และบัญชีโซเชียลให้ดี
    มิจฉาชีพมักสร้างเว็บไซต์หรือบัญชีที่ชื่อคล้ายของจริงเสมอ ต้องสังเกตรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ตัวสะกดหรือโลโก้ที่ผิดเพี้ยน
  5. ติดตามข่าวสารจากแหล่งที่เชื่อถือได้
    เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อข่าวปลอมหรือกระแสที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อปั่นราคา

บทสรุป

โลกคริปโตเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถสร้างผลตอบแทนได้จริง แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยกับดักที่แฝงมาด้วยความเสี่ยง มิจฉาชีพใช้ทั้งความโลภ ความไม่รู้ และความเร่งรีบของผู้คนเป็นเครื่องมือ การรู้เท่าทัน Scam และกลโกงที่มักเกิดขึ้นจึงเป็นเกราะป้องกันที่สำคัญที่สุดสำหรับนักลงทุนทุกคน หากอยากก้าวเดินในวงการคริปโตอย่างมั่นคง ควรยึดหลัก “ลงทุนในสิ่งที่เข้าใจจริง” และไม่หลงเชื่อสิ่งที่ดูดีเกินกว่าจะเป็นความจริง

โลกของคริปโตเคอร์เรนซีหรือสกุลเงินดิจิทัล ได้กลายเป็นอี…